ญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอย ตกจากอันดับ 3 ประเทศขนาดเศรษฐกิจใหญ่สุดในโลก
วันที่ 15 ก.พ. รัฐบาลญี่ปุ่นรายงานว่า ญี่ปุ่นได้สูญเสียสถานะการเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกให้กับเยอรมนีในปี 2023 และเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession) เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอ
รัฐบาลระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่น อยู่ที่ 4.21 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 152 ล้านล้านบาท) เท่านั้น ถือเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากเยอรมนีซึ่งอยู่ที่ 4.46 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 161 ล้านล้านบาท) ซึ่งสาเหตุหลักมาจากค่าเงินเยนที่ลดลงอย่างรวดเร็ว
“ข้าวเนื้อ” มหาวิทยาลัยเกาหลีใต้พัฒนาข้าวลูกผสม “เป็นทั้งข้าวและเนื้อสัตว์”
“ปูติน” เผย สหรัฐฯ ภายใต้ “ไบเดน” ดีกว่าสหรัฐฯ ที่ “ทรัมป์” ปกครอง
เกาหลีเหนือเผยโฉม “ปาดาซูริ-6” ขีปนาวุธพื้นสู่ทะเลชนิดใหม่
สำนักงานคณะรัฐมนตรีระบุว่า สำหรับไตรมาส 4/2023 เศรษฐกิจหดตัวร้อยละ 0.1 จากไตรมาสก่อนหน้า หรืออยู่ที่ร้อยละ 0.4 ต่อปี โดยการใช้จ่ายของทั้งภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจขาดความเข้มแข็งท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อ
ในเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจ การหดตัวติดต่อกัน 2 ไตรมาสหมายความว่า เศรษฐกิจกำลังอยู่ในภาวะถดถอย ก่อให้เกิดความท้าทายสำหรับรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น
ความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ภาคเอกชนที่สำรวจโดยศูนย์วิจัยเศรษฐกิจแห่งญี่ปุ่นเคยคาดการณ์การขยายตัวของ GDP ที่ร้อยละ 1.28 ต่อปี
สึเอฮิโระ โทรุ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทหลักทรัพย์ไดวะ กล่าวว่า “ปัญหาไม่ใช่แค่ว่าญี่ปุ่นรายงานการเติบโตติดลบ อุปสงค์ในประเทศก็ทรุดตัวลงเช่นกัน และข้อมูลก็แย่มาก” พร้อมเรียกผลลัพธ์ดังกล่าวว่าเป็น “ความประหลาดใจเชิงลบ” สำหรับตลาด
เขากล่าวว่า “มันเกิดขึ้นทั้ง ๆ ที่มีแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ที่น่าจะอัดอั้นจากช่วงโควิด-19 ในปีที่แล้ว” พร้อมเสริมว่า ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นจะยังคงเคลื่อนไหวเพื่อยุติอัตราการเติบโตติดลบนี้
การบริโภคภาคเอกชน ซึ่งคิดเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่งของเศรษฐกิจ ลดลงร้อยละ 0.2 นับเป็นการลดลงเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน เนื่องจากครัวเรือนต่าง ๆ ต้องต่อสู้กับค่าครองชีพที่สูงขึ้นและค่าจ้างที่แท้จริงที่ลดลง
นอกจากนี้ การใช้จ่ายเพื่อการลงทุนยังขาดความแข็งแกร่ง โดยลดลงร้อยละ 0.1 ซึ่งเป็นสัญญาณที่น่ากังวลว่า บริษัทญี่ปุ่นยังคงระมัดระวังในการเพิ่มการลงทุน แม้ว่าจะมีแผนงานที่แข็งแกร่งก็ตาม
ชินโด โยชิทากะ รัฐมนตรีกระทรวงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ กล่าวว่า “เยอรมนีแซงหน้าญี่ปุ่น แสดงให้เห็นว่า มีความจำเป็นสำหรับเราที่จะต้องส่งเสริมการปฏิรูปโครงสร้างและสร้างเวทีใหม่สำหรับการเติบโต”
เขาเสริมว่า “เราจะปรับใช้ขั้นตอนนโยบายทั้งหมดเพื่อสนับสนุนการปรับขึ้นเงินเดือน” เพื่อเป็นแนวทางที่ชัดเจนสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยอุปสงค์ที่ยั่งยืน
แม้ว่าอุปสงค์ในประเทศจะชะลอตัว แต่การส่งออกของญี่ปุ่นยังคงเติบโต โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 เพราะได้แรงหนุนจากการท่องเที่ยวขาเข้าที่ฟื้นตัว
เรียบเรียงจาก Kyodo News
เช็กสถิติหวยออกย้อนหลัง 15 ปี งวดประจำวันที่ 16 กุมภาพันธ์
กทม.เตือนฝุ่น PM 2.5 เช้านี้ ทะลุระดับสีแดง 17 เขตคำพูดจาก เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด 2024!
งานนี้พระจะไม่ยุ่ง! ไม่ขอเป็นพยานให้ป้าฮุบบ้านปมคดีครอบครองปรปักษ์