สักฝุ่นมั้ย- ย้อนรอยเหตุการณ์เพื่อนร่วมทีมสาวหมัดใส่กันเอง
ในค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งแฟนบอลอย่างเรา ๆ ต้องพากันมุ่งเป้าให้ความสนใจไปที่ศึกนัดชิงชนะเลิศคาราบาว คัพ จนหลายคนอาจจะละเลย หรือหลงลืมไปว่า ก่อนเกมที่ เวมบลีย์ จะลงสนาม มีศึกพรีเมียร์ลีกลงฟาดแข้งกันที่ โมลินิวซ์ สเตเดี้ยม ผลจบลงที่ “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด บุกพ่าย “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 0-1
เกมดังกล่าวเหมือนจะจบแบบไม่มีอะไร แต่เหมือน วินิซิอุส ซูซา กับ แจ็ค โรบินสัน 2 ดาวเตะฝั่งผู้มาเยือน กลัวแฟน ๆ จะไม่คุ้มค่าเดินทาง เลยคิดจะจัดมวยเป็นของแถม ดีที่เพื่อนร่วมทีมคนอื่นแห่กันมาห้ามได้ทันท่วงที แม้ห้อง VAR จะมีการเช็กว่าจะนำไปสู่ใบแดงได้หรือไม่ แต่ก็ไม่มีสัญญาณใด ๆ
เหตุวิวาทของมิดฟิลด์ชาวบราซิเลียน และอดีตดาวรุ่ง ลิเวอร์พูล ทำให้คิดย้อนไปถึงเหตุการณ์เพื่อนร่วมทีมจะวางมวยกันเองที่เกิดขึ้นไม่นานนี้ของ เบน ไวท์ กับ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก 2 แนวรับคนสำคัญของ อาร์เซน่อล ในเกมที่ “ปืนใหญ่” บุกไปชนะ “เจ้าป่า” นอตติงแฮม ฟอเรสต์ 2-1 เมื่อมกราคมที่ผ่านมา แม้กัปตันทีมชาติยูเครนจะถูกเปลี่ยนตัวออกไป แต่หลังสิ้นเสียงสัญญาณหมดเวลา จะมีภาพที่ทั้งคู่โต้เถียงกันไปมา เป็นเหตุให้เพื่อนร่วมทีมอย่าง ดีแคลน ไรซ์ ร่วมถึงทีมงานสตาฟฟ์โค้ชต้องเข้ามาห้าม
ย้อนกลับไปอีกหน่อย เป็นคราวของคู่ปรับตลอดกาล อย่าง “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ กรณีของ อูโก โยริส อดีตผู้รักษาประตู และกัปตันทีม กับ ซน เฮือง มิน กัปตันทีมชาติเกาหลี โดยสองผู้เล่น “ไก่เดือยทอง” ถูกกล้องจับภาพได้ว่ามีปัญหากันก่อนเดินเข้าอุโมงค์ช่วงพักครึ่ง ระหว่างเกมพรีเมียร์ลีกที่เฉือนเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ได้หวุดหวิด 1-0 ก่อนจะเคลียร์กันได้เรียบร้อยระหว่างทางเดินสู่ห้องแต่งตัว โดยหลังจบเกม นายด่านชาวฝรั่งเศส ออกมาเผยถึงเหตุผลที่โวยใส่ “โอปป้าซน” เป็นเพราะรู้สึกหงุดหงิดที่เพื่อนไม่ยอมไล่บอล จนเปิดโอกาสให้คู่แข่งมีโอกาสได้ประตู แต่ทุกอย่างเคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว และพร้อมจะเดินหน้ากันต่อคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
หรือจะเป็นกรณีของ ไทโรน มิงส์ กับ อันวาร์ เอล กาซี สมัยที่ปีกชาวดัตช์ยังโลดแล่นกับ “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลลา โดยทั้งสองคนมีปัญหากันในครึ่งแรก ถึงขนาดเอาหัวเข้ามาดันกัน ทำเอาผู้ตัดสินต้องขอดูภาพเหตุการณ์จาก VAR แต่ก็ไม่ได้แจกบทลงโทษแต่อย่างใด
ย้อนกลับไปไกลหน่อย กับเหตุการณ์ที่ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ อดีตกองหน้า อาร์เซนอล ถูกกล้องโทรทัศน์จับภาพได้ว่ามีปากเสียงกับ นิคลาส เบนด์ทเนอร์ กองหน้าเพื่อนร่วมทีม จนถึงขั้นลงไม้ลงมือ โดยดาวยิงเดนมาร์ก โวยวายว่า ถูกกองหน้าโตโกใช้มือข่วนเข้าที่จมูก ร้อนไปถึง วิลเลียม กัลลาส กัปตันทีมต้องมาห้ามทัพเป็นการใหญ่ ซึ่งผู้ตัดสินได้เรียกทั้งคู่ไปสงบสติอารมณ์ด้วยการเตือน แม้ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือปืนใหญ่ จะออกมาทำไม่รู้ไม่ชี้ในเรื่องนี้ แต่ท้ายที่สุด ผู้ห้ามศึกอย่าง กัลลาส ออกมายอมรับว่าทั้งคู่มีปากเสียงกันจริง
ในปีเดียวกัน ยังมีเหตุวิวาทของ ริคาร์โด ฟูลเลอร์ กองหน้าเลือดร้อน กับ แอนดี กริฟฟิน กัปตันทีม สโตค ซิตี ในเกมพรีเมียร์ลีกที่ “ช้างปั้นหม้อ” พ่าย เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-2 โดย ฟูลเลอร์ ไม่พอใจ กริฟฟิน ที่เป็นต้นเหตุทำเสียประตูตีเสมอ 1-1 ก่อนจะเดินไปใช้มือฟาดเข้าที่ปลายคาง ร้อนถึงเพื่อนร่วมทีมที่เข้ามาห้ามทัพเป็นการใหญ่ ส่งผลให้ผู้ตัดสินไม่รอช้า ควักใบแดงส่งกองหน้าผิวหมึกออกจากสนามในทันที แต่ก่อนที่ ฟูลเลอร์ จะเดินออกไป คู่กรณีอย่าง กริฟฟิน ได้ตะโกนไล่หลัง พร้อมชี้นิ้วบอกให้เพื่อนร่วมทีมรีบเดินออกจากสนามเข้าไปในห้องแต่งตัว
หนึ่งในเหตุการณ์วิวาทกันเองที่เป็นที่จดจำมากที่สุด น่าจะเป็นกรณีของ คีรอน ดายเออร์ กับ ลี โบว์เยอร์ สมัยที่ทั้งคู่ยังวาดลวดลายอยู่กับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในขนะที่ทีมกำลังตามหลังแอสตัน วิลว่า อยู่ 0-3 เหตุเกิดขณะที่ ดายเออร์ ได้ครองบอล และ โบว์เยอร์ ขอบอล แต่เพื่อนไม่จ่ายให้
“ส่งมาสิวะไอ้เบื๊อก” เสียงเรียกบอลจาก โบว์เยอร์ และ ดายเออร์ ตอบกลับแบบทันควันว่า “ใครจะส่งให้ไอ้ปัญญาอ่อนแบบแก” จบประโยค ทั้งคู่ก็ไม่รอช้าเข้าบวกกันแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม และเหมือนเพื่อนร่วมทีมจะเอือมกับสิ่งที่เกิดขึ้น จนไม่มีใครมาห้ามทัพ ร้อนถึง แกเรธ แบร์รี กองกลางของ “สิงห์ผงาด” ต้องเป็นฝ้ายเข้ามาช่วยห้ามคู่แข่งต่อยกันเองเสียอย่างนั้นคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ย้อนกลับไปไกลกว่าเดิมกับเหตุการณ์ในทีม แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส โดยหลังจากเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก เหล่านักเตะของ “กุหลาบไฟ” ก็เริ่มมีความเป็นสตาร์ลูกหนังมากขึ้น โดยเฉพาะ 2 ดาวเตะดีกรีทีมชาติอังกฤษอย่าง เดวิด แบตตี และ แกรม เลอ โซซ์ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดที่ทีมบุกเยือน สปาร์ตัก มอสโก หลังเกมเริ่มได้สักพัก ทั้ง เลอ โซซ์ และ แบตตี ก็ได้ระเบิดอารมณ์ออกมา ทั้งคู่แลกหมัดกันอย่างจริงจัง โดยคนห้ามในเวลานั้นคือ ทิม เชอร์วูด มิดฟิลด์อีกคนของทีม และมีข่าวว่าคู่กรณี 2 คนนี้ ตะโกนด่ากันในสนามซ้อมอยู่บ่อย ๆ มาก่อนหน้านั้นแล้ว
ขอปิดท้ายด้วยผู้รักษาประตูขาใหญ่ประจำทีม ลิเวอร์พูล อย่าง บรูซ กร็อบเบลาร์ กับปีกดาวรุ่ง สตีฟ แม็คมานามาน โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างศึกเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บีแมตช์ ที่ กูดิสัน พาร์ก จากลูกเตะมุมที่ลอยไม่มีน้ำหนัก แม็คกา เลือกที่จะหวดบอลทิ้งทันที แต่กลายเป็นว่าเตะผิดเหลี่ยม บอลไปเข้าทาง มาร์ค วอร์ด นักเตะของ “ทอฟฟี่” และ วอร์ด ก็ยิงตามนํ้าตูมเดียวเข้าประตูไป ซึ่งเรื่องดังกล่าวทำให้ กร็อบเบลาร์ ฉุนขาด แต่ “แม็คกา” ในวัยแค่ 21 ปี กล้าจะยืนวัดความสูง ร่วมถึงต่อปากต่อคำกับนายทวารรุ่นใหญ่ จนกระทั่งปีกดาวรุ่งจะเดินหนี แต่ผู้รักษาประตูวัยเก๋าไม่ยอม ตามไปตะคอกใส่ จน แม็คมานามาน หันกลับมาด่าคืน แล้วต่างคนก็ผลักหน้ากันคนละที โชคดีที่ไม่มีการแลกหมัดกัน