“รถโดยสารสาธารณะ” ขอตรึงราคาก๊าซเอ็นจีวี 14.62 บาทต่อกก.
นายปัญญา เลิศหงิม นายกสมาคมรถตู้โดยสารสาธารณะ กรุงเทพฯ ปริมณฑล เปิดเผยว่า วันนี้ (7 ส.ค. 66) สมาคมฯ ได้ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการผู้บริหาร บริษัท ปตทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. จำกัด (มหาชน) เรื่องผลกระทบการขอให้ปรับลดค่าก๊าซเอ็นจีวี เนื่องจากผู้ประกอบกิจการรถโดยสารประจำทางไทย รวมถึงสมาพันธ์ฯ รถโดยสารสาธารณะ กลุ่มสมาคมฯ รถโดยสารสาธารณะประจำทางทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมไปถึงผู้ประกอบการรถโดยสารในต่างจังหวัดทุกเส้นทางทั่วประเทศ สอบถามถึงการให้ส่วนลดราคาก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวี ในรูปแบบบัตรสิทธิประโยชน์ กลุ่มรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งมีราคาที่แตกต่างจากลุ่มรถแท็กซี่นั้น ได้ขอเข้าพบเพื่อสอบถามไปแล้ว จึงขอยื่นหนังสือขอให้ชี้แจงข้อสงสัยถึงสาเหตุของส่วนลดราคาก๊าซธรรมชาติที่ไม่เท่ากัน ของกลุ่มรถสาธารณะอย่างรถเมล์ รถสองแถว และรถตู้ ที่วิ่งประจำทาง ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดดังนี้
1.เหตุใดราคาค่าก๊าซที่ได้ส่วนลดสำหรับรถประจำทางในหมวดขนส่ง ต้องจำแนกประเภท ทั้งที่มีต้นทุนมากกว่ารถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดเล็กอย่างรถแท็กซี่ 2.ขอให้พิจารณาปรับส่วนลดค่าก๊าซธรรมชาติ สำหรับรถโดยสารประจำทางอยู่ที่ 14.62 บาท เท่ากับกลุ่มรถแท็กซี่ เนื่องจากมูลค่าต้นทุนรถโดยสารประจำทางมีสูงกว่า และไม่สามารถปรับลดราคาค่าโดยสารตามระยะของมิเตอร์เหมือนกับแท็กซี่ได้ และ 3.ขอให้ตรึงราคาก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวีกับรถโดยสารประจำทางไว้ก่อน
ด้านนายบรรยงค์ อัมพรตระกูล ประธานสหพันธ์รถเมล์ กทม. และปริมณฑล กล่าวว่า วันนี้ได้ยื่นหนังสือถึงผู้บริหาร บริษัท ปตท. เรื่องขอให้มีมาตรการช่วยเหลือกลุ่มรถโดยสารสาธารณะทั้งหมดเท่ากับรถแท็กซี่ เนื่องจากตั้งแต่มีการใช้ก๊าซธรรมชาติอัดสำหรับรถยนต์ หรือเอ็นจีวีในประเทศไทย เวลาที่มีมาตรการให้ส่วนลดราคาขายปลีกก๊าซเอ็นจีวีสำหรับรถโดยสารสาธารณะ ได้แก่ รถโดยสารประจำทาง รถแท็กซี่ รถตุ๊กๆ รถตู้ รถมินิบัส และรถสองแถว จะได้รับส่วนลดในอัตราเดียวกันมาโดยตลอด หลังจากที่เกิดโควิด-19 ช่วงต้นปี 63 คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน ซึ่งมี รมว.พลังงาน เป็นประธาน ทราบความเดือดร้อนกลุ่มผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ ในจำนวนผู้โดยสารที่ลดลง
จึงปรับราคาขายก๊าซเอ็นจีวีสำหรับรถโดยสารสาธารณะทั้งหมด ประกอบด้วย รถโดยสารประจำทาง รถแท็กซี่ รถตุ๊กๆ รถตู้ รถมินิบัส และรถสองแถว ลดลง 3 บาทต่อกิโลกรัม ระยะเวลา 4 เดือน ตั้งแต่ 1 เม.ย.-31 ก.ค. 63 แล้วไม่ขยายเวลาช่วยเหลือต่อ จากนั้นรถแท็กซี่มาจอดปิดกระทรวงพลังงาน ช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. 64 เริ่มช่วยเหลือด้วยโครงการเอ็นจีวี เพื่อลมหายใจเดียวกัน สำหรับรถแท็กซี่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ลดค่าก๊าซเอ็นจีวีเหลือ 13.62 บาทต่อกิโลกรัม ตั้งแต่ 1 พ.ย. 64 และต่อมาตรการช่วยเหลือมาโดยตลอดจนถึง 15 มิ.ย. 66 ไม่มีการช่วยเหลือรถโดยสารสาธารณะอื่น ซึ่งได้รับความเดือดร้อนมากเช่นกัน การดำเนินการส่งผลให้รถโดยสารสาธารณะประเภทอื่นๆ เดือดร้อนมาก จนทำให้บางรายเลิกอาชีพและกิจการ ประชาชนไม่สามารถใช้บริการรถสาธารณะได้บางเส้นทาง
นายบรรยงค์ กล่าวต่อว่า ประกอบกับปัจจุบันผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 ยังไม่ฟื้นตัวและมีรายได้ต่ำกว่าช่วงปี 62 ที่ไม่มีโควิด-19 ผู้ประกอบการบางรายยังไม่เลิกกิจการ และประคับประคองกิจการให้รอด แม้จะมีหนี้สินเพิ่ม ดังนั้นร้องขอให้ ปตท. ตรึงราคาค่าก๊าซเอ็นจีวีสำหรับรถสาธารณะทุกประเภทเท่ากับที่ราคาให้แก่รถแท็กซี่คือ 14.62 บาทต่อกิโลกรัม จนสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือบัตรสิทธิประโยชน์กลุ่มรถโดยสารสาธารณะ เพราะปัจจุบันราคาค่าก๊าซเอ็นจีวีอยู่ที่ 17.59 บาทต่อกิโลกรัม แนวโน้มอนาคตจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้มีต้นทุนเดินรถเพิ่มขึ้นอีก เช่น รถสองแถว เดิมเคยจ่ายค่าก๊าซเอ็นจีวีอยู่ที่ 300 บาทต่อคันต่อวัน แต่ปัจจุบันจ่ายอยู่ที่ 600 บาทต่อคันต่อวัน ขณะที่อัตราค่าโดยสารไม่สามารถปรับขึ้นให้สอดคล้องกับต้นทุนเดินรถได้