นายธนากร มนูญผล รองกรรมการผู้อำนวยการ หน่วยงาน Group Investment บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือGRAMMY เปิดเผยในงาน Opportunity Day ของตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ปีนี้ 2566 บริษัทยังคงตั้งเป้ามีรายได้เติบโตในอัตราเลข 2 หลักขึ้นไป หรือDouble-Digit (แปลว่า 10% ขึ้นไป) แม้ในช่วงไตรมาส 2 และ ไตรมาส 3 จะมีรายได้เป็นแบบไซด์เวย์ แต่เชื่อมั่นว่าในไตรมาส 4 บริษัทจะสามารถบันทึกรายได้สูงที่สุดของปี

“ถ้าเทียบกับปีที่แล้วเรายังคงเติบโตอย่างแน่นอน แต่ถ้าเทียบต่อไตรมาสรายได้ยังคงเพิ่มขึ้น ทั้งปีไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ยังคงจะเป็นรายได้ที่เทียบแล้วไซด์เวย์ และเราจะบันทึกรายได้มากสุดในไตรมาสที่ 4” นายธนากร กล่าว

ขณะเดียวกัน ปีนี้บริษัทได้วางงบการลงทุนไว้ที่ประมาณ 500 ล้านบาท โดยนำไปลงทุนในส่วนการผลิตคอนเทนต์ใหม่ ๆ และและการลงทุนอื่น ๆ (CAPEX) ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นงบลงทุนในการสร้างเพลง ศิลปิน และขยายโครงสร้างในช่องทางการขายสินค้าของกลุ่มจีเอ็มเอ็มแกรมมี่

“เป๊ก ผลิตโชค” ตื่นเต้นปรากฎการณ์คอนเสิร์ต “แกรมมี่ – อาร์เอส” คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ไทยตั้งรัฐบาลใหม่ช้า กระทบเบิกจ่ายงบ ลุกลามการลงทุน-บริโภคในประเทศ

นายธนากร กล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทมีรายได้มาจากธุรกิจเพลงสัดส่วน 63% ธุรกิจโฮมชอปปิ้ง สัดส่วน 25% ธุรกิจภาพยนต์ สัดส่วน 5% และแซทเทิลไลท์ทีวีแพลฟอร์ม 3% รวมถึงยังมีกิจการร่วมค้าต่าง ๆ (Joint Venture) เช่น บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ONEE ซึ่งเป็นเงินลงทุนที่ใหญ่ที่สุด เป็นต้น

สำหรับในอนาคต บริษัทจะมุ่นเน้น 5 จุดสำคัญหลักคือ

1. Entertainment data intelligence : เนื่องจากบริษัทมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความบันเทิงขนาดใหญ่สุดในไทย
2. No.1 Music performance : เป็นบริษัทเพลงอันดับ 1 ของประเทศ ทั้งในแง่ประสิทภาพ และเงินลงทุน
3. Rebuild the new generation : มุ่งหน้าบ่มเพาะศิลปินยุคใหม่เข้าสู่ตลาดมากขึ้น
4. Digital crossover :ธุรกิจดิจิทัลมิวสิค เป็นธุรกิจที่สำคัญในปัจจุบันและสร้างรายได้มากที่สุดของบริษัท ต้องทำให้ธุรกิจมีความมั่นคงในทุกแพลตฟอร์มมากยิ่งขึ้น
5. No1 Showbiz In Thailand : ปัจจุบันบริษัทเป็นผู้จัดคอนเสิร์ตอันดับ 1 ของไทย ล่าสุดมียอดผู้เข้าชมกว่า 4 แสนคน และในปี 2566 บริษัทตั้งเป้ายอดผู้เข้าชมทุกคอนเสิร์ตราว 5 แสนคน

ชมคลิปวิดีโอเต็ม :https://www.youtube.com/live/qlh-WDM8460?feature=share